วันอาทิตย์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554

การก่อสร้างสะพานหอสูงทั้ง 3 แห่งในสายเหนือ 1





ในทางสายเหนือระหว่างจังหวัดลำปางกับจังหวัดลำพูน มีเทือกเขาขุนตานซึ่งเป็นเทือกเขาใหญ่และสูงกั้นอยู่ ทางรถไฟที่เชื่อมสองจังหวัดนี้จึงต้องไต่ขึ้นระดับสูง จุดที่สูงที่สุดอยู่ที่สถานีขุนตาน (575.31 เมตร จากระดับน้ำทะเล) ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดของทางรถไฟของประเทศด้วย ในระยะทางตอนนี้ระหว่างสถานีแม่ตานน้อยถึงสถานีขุนตาน ทางรถไฟต้องทำตัดผ่านข้ามระหว่างหุบเขาสูง 3 แห่ง คือ ที่ปางแงะ ปางยางใต้และปางยางเหนือ วิศวกรชาวเยอรมันผู้ทำการสำรวจและก่อสร้างได้พิจารณาว่าระดับทางรถไฟที่ผ่านหุบเขาทั้ง 3 แห่งนี้ อยู่สูงกว่าระดับท้องลำห้วยระหว่าง 30 - 40 เมตร การที่จะถมดินเป็นคันทางรถไฟในที่สูง ๆ เช่นนี้ จะทำให้งานล่าช้าและไม่เป็นการประหยัด และ ไม่เป็นการปลอดภัยอีกด้วย จึงได้ออกแบบสร้างเป็นสะพานสูง (Viaduct) เชื่อมระหว่างเขาแต่ละลูก การก่อสร้างสะพานทั้ง 3 แห่งมีดังนี้

1.สะพานสูง 5 หอ ตั้งอยู่ที่ กม. 676.736 
แนวทางบนสะพานเป็นทางโค้ง รัศมี 300 เมตร และมีความลาดชัน 23 ใน 1000 ตัวสะพานทำด้วยเหล็กเป็นแบบ Deck truss และ Deck plate วางสลับกันมีขนาดช่วง 5 (20.00 + 10.00) + 33.00 ม. ตอม่อริมฝั่งสองข้างเป็นตอม่อคอนกรีต ตอม่อกลางเป็นเสาหอเหล็ก (Steel tower) ตั้งอยู่บนแท่นคอนกรีตมีอยู่รวม 5 หอ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2458

2.สะพานสูง 3 หอ ตั้งอยู่ที่ กม. 677+903
แนวทางบนสะพานเป็นทางตรง มีความลาดชัน 25 ใน 1000 ตัวสะพานทำด้วยเหล็ก ขนาด 30.00 + 60.00 + 30.00 + 22.00 เมตร สะพานเหล็กช่วง 30.00 + 60.00 + 30.00 เมตร เป็

นสะพานแบบโครงยีน (Cantiliver type deck truss) ตั้งอยู่บนเสาหอเหล็กตัวโครงสะพานยื่นออกไปสองข้างด้านริมฝั่งมีตอม่อคอนกรีตรองรับไว้และมีน้ำหนักถ่วงมิให้ปลายอีกข้างหนึ่งกระดกเมื่อมีรถไฟวิ่งผ่าน ที่ระหว่างปลายโครงยื่นช่วงกลางมีสะพานสั้น ยาว 9.20 เมตร วางพาดอยู่ ส่วนสะพานช่วง 22.00 เมตรสุดท้ายเป็นแบบ Simple deck truss สะพานนี้มีเสาหอเหล็กรวม 3 เสาตั้งรองรับอยู่ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2458

3.สะพานสูง 2 หอ ตั้งอยู่ที่ กม.678+724
แนวทางอยู่ในทางตรง มีความลากชัน 25 ใน 1000 เป็นสะพานเหล็กขนาด 30.00 + 60.00 + 30.00 เมตร เป็นสะพานแบบเดียวกับสะพานสูง 3 หอ เว้นแต่ไม่มีสะพานเหล็กช่วง 22.00 เมตร และตั้งอยู่บนหอเหล็กรวม 2 หอ สร้างเมื่อปี พ.ศ.2458 เช่นเดียวกัน



Writer : Kritsada Chintanachot

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น